ต้นมะเดื่อฝรั่ง ไร่กฤติยา

การปลูกและดูแลรักษาสามารถทำได้ง่าย

การปลูกมะเดื่อฝรั่งนั้นไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ไม่ต่างกันมากนัก เนื่องจากมะเดื่อฝรั่งหรือ Fig นั้น เป็นต้นพืชที่มีถิ่นกำหนดจากตะวันออกกลาง เป็นไม้ที่ทนแล้งและไม่ชอบน้ำขัง การปลูกควรเลือกพื้นที่เมื่อเวลาฝนตกแล้วน้ำจะไม่ท่วมขัง หรือหากเลี่ยงไม่ได้และต้องปลูกในพื้นที่ลุ่มต่ำหรือที่นา มีความเป็นไปได้ว่าน้ำจะท่วมขัง ให้พิจารณายกร่อง หรือยกโคกขึ้นจากพื้นเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขัง คล้ายการปลูกทุเรียน

พออายุได้ประมาณ 5-6 เดือน มะเดื่อฝรั่งก็จะเริ่มให้ผลผลิต ซึ่งสำหรับการปลูกกลางแจ้งจะมีข้อเสียคือจะมีนก หนู แมลง คอยรบกวนและกัดกินผล เราควรป้องกันด้วยการห่อหุ้มด้วยกระดาษห่อผลไม้ หรือถุงพลาสติกที่ระบายอากาศได้เพื่อไม่ให้เกิดการร้อนอบอ้าวซึ่งอาจทำให้ผลมะเดื่อฝรั่งเสียหายได้

มะเดื่อฝรั่งนั้นคือ 1 ใน 10 Super Food ที่ให้คุณค่าทางอาหารสูงมากและมีรสชาติอร่อย ซึ่งแน่นอนว่าราคานั้นย่อมสูงตามไปด้วย และในตลาดผลมะเดื่อฝรั่งสดในเมืองไทยนั้นถือว่ายังมีเกษตรกรที่ทำน้อยและมีความต้องการจากผู้บริโภคอีกจำนวนมาก ยังมีที่ว่างและโอกาสให้เกษตรกรผู้ที่สนใจเข้ามาจับจองพื้นที่ได้อีกมาก

ไม่เพียงแต่ตลาดผลมะเดื่อฝรั่งสดเท่านั้น แต่ยังสามารถแปรรูปเป็นผลอบแห้ง หรือในรูปแบบของชาจากใบมะเดื่อฝรั่ง (Fig Leaf Tea) ที่มีความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย

ต้นพันธุ์มะเดื่อฝรั่ง(Fig)

ต้นมะเดื่อฝรั่ง ไร่กฤติยา

ต้นพันธุ์นี้เป็นกิ่งตอนพันธุ์บราวน์ตุรกีอายุประมาณ 2 เดือน เริ่มมีกิ่งก้าน ใบแตกออกมา มีความแข็งแรงพร้อมที่จะลงหลุมปลูก

ผลสุกมะเดื่อฝรั่งพันธุ์บราวน์ตุรกี

ผลสุกมะเดื่อฝรั่ง พันธุ์บราวน์ตุรกี

ผลสุกจะมีสีน้ำตาลเข้มอมม่วงของพันธุ์บราวน์ตุรกี มีรสชาติหวาน หอม อร่อยมาก

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *